บริษัท โชชูยา จำกัด
ประวัติศาสตร์สาเกญี่ปุ่น (Japanese Sake) จากพิธีกรรมโบราณสู่เครื่องดื่มแห่งวัฒนธรรม
- Choshuya
- ทั่วไป
- 2025-05-28 09:49:56

“สาเก” (Sake) ไม่ใช่แค่เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของญี่ปุ่นเท่านั้น แต่ยังเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของวัฒนธรรมญี่ปุ่นที่ฝังรากลึกมาเป็นพันปี ตั้งแต่บทบาทในพิธีกรรมของศาสนาชินโต ไปจนถึงงานเฉลิมฉลองของคนในครอบครัว สาเกจึงเป็นมากกว่าเพียงเครื่องดื่มธรรมดา บทความนี้จะพาคุณย้อนเวลากลับไปสำรวจต้นกำเนิดของสาเก วิวัฒนาการของการผลิต จนถึงสถานะของสาเกในสังคมญี่ปุ่นยุคปัจจุบัน
หัวข้อ
ต้นกำเนิดของสาเกญี่ปุ่น
สาเกมีต้นกำเนิดที่เก่าแก่กว่า 2,000 ปี โดยมีหลักฐานว่ามีการผลิตเครื่องดื่มจากข้าวในสมัย ยุคยะโยอิ (Yayoi Period) ซึ่งเป็นช่วงที่ชาวญี่ปุ่นเริ่มปลูกข้าวและมีวัฒนธรรมการเกษตรอย่างเป็นระบบ
ในยุคแรก ๆ การผลิตสาเกยังไม่มีระบบการหมักที่ซับซ้อน โดยใช้วิธีที่เรียกว่า “kuchikami no sake” หรือ “สาเกเคี้ยวด้วยปาก” ซึ่งผู้หญิงในหมู่บ้านจะเคี้ยวข้าวให้ละลายและบ้วนลงในภาชนะเพื่อให้เอนไซม์ในน้ำลายช่วยในกระบวนการหมัก
สาเกในศาสนาและพิธีกรรม
เมื่อเข้าสู่ ยุคโคฟุง (Kofun Period) และ ยุคนาระ (Nara Period) สาเกเริ่มมีความเกี่ยวข้องกับศาสนา โดยเฉพาะศาสนาชินโต ซึ่งใช้สาเกเป็นเครื่องเซ่นไหว้เทพเจ้าในศาลเจ้า หรือในพิธีกรรมสำคัญ เช่น งานแต่งงาน งานขึ้นบ้านใหม่ และพิธีรับปีใหม่
รัฐบาลญี่ปุ่นในยุคโบราณยังมีการควบคุมการผลิตสาเกผ่านหน่วยงานของรัฐ เช่น Bureau of Sake Brewing ในสมัย เฮอัน (Heian Period) แสดงให้เห็นว่าสาเกเป็นสินค้าที่มีมูลค่าสูงและสำคัญต่อเศรษฐกิจ
วิวัฒนาการของการผลิตสาเก
การผลิตสาเกพัฒนาอย่างต่อเนื่องในยุคกลางของญี่ปุ่น โดยเฉพาะในช่วง ยุคเอโดะ (Edo Period) ซึ่งเป็นยุคที่มีการก่อตั้งโรงผลิตสาเกจำนวนมาก และเริ่มมีการใช้เชื้อราที่ชื่อว่า โคจิ (Koji Mold) ในการย่อยแป้งข้าวให้เป็นน้ำตาลก่อนการหมัก ทำให้รสชาติของสาเกนุ่มนวลและมีเอกลักษณ์มากขึ้น
ในยุคนี้ยังเริ่มมีการแยกประเภทสาเก เช่น
- Nigori (ขุ่น)
- Junmai (บริสุทธิ์ไม่ผสมแอลกอฮอล์)
- Honjozo (ผสมแอลกอฮอล์เล็กน้อยเพื่อดึงกลิ่น)
สาเกในยุคปัจจุบัน
หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 การผลิตสาเกได้รับผลกระทบอย่างมาก เนื่องจากข้าวขาดแคลนและรัฐบาลควบคุมวัตถุดิบ แต่เมื่อเศรษฐกิจฟื้นตัว สาเกก็กลับมาได้รับความนิยม โดยเฉพาะในหมู่คนญี่ปุ่นรุ่นใหม่ที่หันมาสนใจผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นและวัฒนธรรมดั้งเดิมมากขึ้น
ปัจจุบัน สาเกถูกยกให้เป็น “เครื่องดื่มประจำชาติ” ของญี่ปุ่น และได้รับความนิยมในระดับสากล มีการส่งออกไปยังประเทศต่าง ๆ รวมถึงได้รับการรับรองในระดับ GI (Geographical Indication) จากหลายจังหวัด เช่น นีงาตะ (Niigata) และ ฮิโรชิมะ (Hiroshima)
บทบาทของสาเกในวัฒนธรรมญี่ปุ่น
- ใช้ใน พิธีกรรมศาสนา และ เทศกาลประจำปี
- แสดงถึง ความเคารพและความผูกพันในครอบครัว
- ใช้ใน การเจรจาทางธุรกิจ หรือ “Nomikai” การสังสรรค์ในองค์กร
- เป็น ของขวัญ ในโอกาสพิเศษ เช่น ปีใหม่ วันเกิด หรือวันแต่งงาน
ประเภทของสาเกในปัจจุบัน
- Junmai – สาเกที่ใช้ข้าว น้ำ และโคจิเท่านั้น ไม่มีการเติมแอลกอฮอล์
- Honjozo – เติมแอลกอฮอล์เล็กน้อยเพื่อเพิ่มกลิ่นหอม
- Ginjo – ใช้ข้าวที่ขัดให้เหลือ 60% หรือน้อยกว่า
- Daiginjo – ข้าวขัดเหลือไม่เกิน 50% มีรสชาติซับซ้อน
- Nigori – สาเกขุ่น กรองหยาบ หอมหวาน
- Namazake – สาเกสด ไม่ผ่านการพาสเจอร์ไรซ์
- Koshu – สาเกบ่มนาน ให้รสเข้มคล้ายวิสกี้
สรุป
จากอดีตที่สาเกเริ่มต้นจากพิธีกรรมในหมู่บ้านเล็ก ๆ สู่การเป็นหนึ่งในเครื่องดื่มระดับโลก สาเกไม่เพียงแต่สะท้อนวิถีชีวิตของชาวญี่ปุ่น แต่ยังแสดงถึงความพิถีพิถันในทุกกระบวนการผลิต และความเคารพต่อธรรมชาติ วัฒนธรรม และความสามัคคี
หากคุณเป็นนักดื่มที่หลงใหลในรสชาติและเรื่องราว สาเกญี่ปุ่นคือตัวเลือกที่มากกว่าความเมา — แต่มันคือประสบการณ์ของวัฒนธรรมที่ถูกกลั่นออกมาอย่างประณีตในทุกหยด
ติดต่อเรา
- LINE : @choshuya
- Email : choshuyaco.ltd@gmail.com
- Tel. : 02-002-6626
- เว็บไซต์ : www.choshuya.co.th

